เยียวยาโรคฮิต ออฟฟิศซินโดม!!

ออฟฟิศซินโดรม คือกลุ่มอาการที่อยู่ในออฟฟิศ มีทั้งไมเกรน กรดไหลย้อน ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดคอ หลัง บ่า ไหล่ นิ้วล็อก ซึ่งทั่วโลกมีอาการเดียว กันหมด

ดร.สุวรรณ ตั้งจิตรเจริญ แพทย์อายุรเวท กล่าวในการบรรยายเรื่อง “ออฟฟิศซินโดรม ภัยร้ายในสำนักงาน : การป้องกันและรักษา” ส่วนหนึ่งของกิจกรรม “เพื่อนห้องสมุด” จัดโดยห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร

ดร.สุวรรณกล่าวต่อว่า คนมักจะไปโทษ ว่าทำงานออฟฟิศจึงเป็นโรคนี้ ไปโทษคอมพิวเตอร์ โทษที่นอน ไปเข้าใจว่าคนทำงานออฟฟิศแล้วจะป่วยทุกคน การทำงานออฟฟิศก็เหมือนกับการเล่นกีฬา มีบาดเจ็บกันทุกคน เหมือนพิษไข้ที่มีการสะสม เมื่อไปพบแพทย์ก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ออกกำลังกาย บางคนไปออกกำลังกายมากเกินไปก็ทำให้เจ็บอีก การออกกำลังกายต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา

“เราต้องฟังเสียงร่างกายของเรา ต้องรู้ว่าเวลาไหนต้องทำอะไรบ้าง การทำงานออฟฟิศไม่ได้น่ากลัว ถ้าเรารู้จักเวลา พักผ่อนให้ เพียงพอ เพราะการทำงานหนักเท่ากับว่าเราฉุดชีวิตตัวเอง ถึงเวลากินไม่กิน นอนไม่นอน คนส่วนใหญ่ละเลย ส่วนนี้ไป การรับประทานอาหารก็เช่นกัน ควรจะหนักมื้อเช้า มื้อเย็นควรกินให้น้อย อาจจะขัดกับชีวิตคนไทยที่มักจะหนักมื้อเย็น แต่ถ้าเปลี่ยนได้จะทำให้ร่างกายดีขึ้น” แพทย์อายุรเวทเผย

ดร.สุวรรณกล่าวอีกว่า ต้องสังเกตตัวเองและคนรอบข้างโดยเฉพาะเด็กๆ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจสะสมมาตั้งแต่เด็กที่มีสาเหตุจากการถือกระเป๋าหนัก กระโดดหกล้ม แต่ไม่กล้าบอกผู้ใหญ่ กลัวจะโดนดุ อาจมีอาการปวดหลัง บางคนปวดขา ทำให้เกิดสันหลังคดได้ บางคนร่างกายเริ่มไม่ไหวในวัย 30 ต้นๆ ยิ่งทำงานดึกร่างกายจะทรุดโทรมยิ่งขึ้น สำหรับ ผู้หญิงที่ไม่ค่อยอยากเดินไปเข้าห้องน้ำเพราะกังวลเรื่องความสะอาด มักเกิดปัญหาเรื่องกรวยไต อาจอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน

ด้าน นพ.ชนะ แสงมณี แพทย์อายุรเวท กล่าวเสริมว่า งานออฟฟิศเป็นกิจวัตรที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพียงแต่ว่าถ้าเราทำงานเราต้องแบ่งเวลา หากเราทำงานนานๆ จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัว นอกจากนี้การมีภาวะเครียด นอนไม่พอก็ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวได้เช่นกัน พฤติกรรมพวกนี้จะสะสมมาเรื่อยๆ

คนที่มีอาการปวดให้ลองสังเกตว่านอนถึง 8 ชั่วโมงหรือไม่ ถ้านอนน้อยจะมีอาหารปวดเกร็งคอ พฤติกรรมเหล่านี้หากสะสมหลายปียิ่งทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวมากขึ้น ปัจจุบันอาการเหล่านี้ไม่ได้เจอในกลุ่มวัยทำงานหรือผู้สูงอายุเท่านั้น แต่พบเจอในกลุ่มอายุน้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะเด็กวัยมัธยมศึกษา

ภายในงานได้ให้ผู้ร่วมฟังบรรยายลองสำรวจตัวเอง โดยมี นพ.ศุภกฤษ บุตรจันทร์ แพทย์อายุรเวท ร่วมแนะนำ เริ่มจากก้มหน้าคางชิดอก หน้าตรงเงยหน้าบนฟ้า หน้าตรงเอียงคอซ้ายและขวา หน้าตรงหันหน้าไปซ้ายและขวา ยกแขนซ้ายแนบหูและแขนขวา ทั้งหมดให้ลองทำอย่างช้าๆ หากมีอาการเจ็บปวดเป็นสัญญาณการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ

จากนั้นให้ลองนวดตัวเองอย่างง่ายด้วยการใช้มือซ้ายจับไหล่ขวา ใช้ 4 นิ้วกดลง ใช้มือขวาจับข้อมือซ้ายแล้วดึงลงเพื่อเพิ่มแรง ประสานมือไว้ตรงหลังศีรษะ ใช้นิ้วโป้งนวดกดมาที่ต้นคอจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้

คุณหมอชนะกล่าวปิดท้ายว่า ทุกกล้ามเนื้อมีระบบประสาท ถ้าเจ็บปวดหากเราได้ยืด นวด ตามด้วยการประคบร้อน จะช่วยให้ผ่อนคลายไปจนถึงหายได้ พฤติกรรมต่างๆ ทั้งการนั่งผิดท่าหรือนอนน้อย ถ้าเราได้บริหารกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อจะไม่เกร็งตัว โอกาสที่เราจะเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมก็จะน้อยลง

e_bcegnvwy3569

ข้อมูลจาก  : หนังสือพิมพ์ข่าวสด