9 สถานที่ “ลอยกระทง” บรรยากาศอลังการงานสร้าง

“วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชาย – หญิง สนุกกันจริง…วันลอยกระทง” เสียงเพลงนี้แว่วมาแต่ไกล บ่งบอกว่า วาระแห่งการท่องเที่ยวและการเฉลิมฉลองมหรสพในวันลอยกระทงใกล้เข้ามาเยือนอีกแล้ว

20121122133826

โดยปีนี้วันลอยกระทง ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงวางแผนชวนครอบครัว คนรัก และเพื่อน ๆ เดินทางไปลอยกระทงด้วยกัน แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะไปลอยกระทงไหนดี วันนี้มาสถานที่จัดงานวันลอยกระทงมาให้เลือกคะ

 

1. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ : “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง”

เอเชียทีค
เริ่มต้นที่ย่านเมืองเก่า “เจริญกรุง” กับงาน “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ณ สถานที่ท่องเที่ยวฮ็อต ฮิต ของย่านนี้ Asiatique The Riverfront (เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์) เป็น 1 สถานที่สำหรับพี่น้องชาว กทม. ที่จัดงานใหญ่ในปีนี้ โดยภายในงานจะได้พบกับ การแสดง แสง สี เสียง ตระการตา และพลุประกอบกลางแม่น้ำ ตื่นตาไปกับเรือไฟฟ้าขนาดใหญ่ และการแสดงสุดยอดประเพณีไทย 4 ภาคโดยกรมศิลปากร  สถานที่จัดงานจะอยู่บริเวณริมน้ำ ทำให้สามารถสัมผัสความงามของแม่น้ำเจ้าพระยารวมทั้งตื่นตาไปกับการแสดงต่างๆได้อย่างใกล้ชิด

==================================

2. สะพานพระราม 8

พระราม8

หนึ่งในสถานที่ลอยกระทงยอดฮิตอีกหนึ่งที่ของคนกรุง สำหรับบริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี ที่ตั้งอยู่ภายในเขตบางพลัด ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการจัดงาน พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับนักท่องเที่ยวได้ลงไปลอยกระทงในทุก ๆ ปี โดยภายในงานจะเน้นการส่งเสริมและอนุรักษ์การท่องเที่ยวประเพณีลอยกระทงแบบดั้งเดิม เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีการท่องเที่ยวให้คงอยู่อีกด้วย

==================================

3. งานภูเขาทอง

ภูเขาทอง

งานวัดภูเขาทอง เป็นหนึ่งเทศกาลงานวัดที่คนกรุงเทพฯ เฝ้ารอ เพราะเป็นต้นกำเนิดของงานวัดในเมืองไทย และนอกจากจะได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมภายในงานแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสักการบูชาพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ที่เป็นมงคลพิธีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5  ณ บริเวณพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) และลานพระวิหาร วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร  สำหรับงานวัดภูเขาทอง ทางวัดจะเปิดให้ประชาชนขึ้นไปกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุในตอนกลางคืนเป็นช่วงเวลาพิเศษ โดยสิ่งที่ไม่ควรพลาด นั่นคือ การขึ้นไปกราบนมัสการปิดทองพระบรมสารีริกธาตุ, ชมพระบรมบรรพตที่ชั้นบนสุด และการเข้าไปชมความงามของพระพุทธรูปและภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ รวมถึงการไปเดินเล่น เดินชิลในเทศกาลงานสมโภชองค์พระบรมสารีริกธาตุ ที่มีเวทีกิจกรรมการแสดง การแสดงดนตรีไทย บ้านผีสิง ชิงชาสรรค์ ปาเป้า เป่าลูกโป่งรวมถึงร้านค้าจากทั่วประเทศที่เอาสินค้าขึ้นชื่อมาจำหน่ายมากมาย

==================================

4. วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพมหานคร

วัดอรุณ

งานลอยกระทงที่ “วัดอรุณราชวราราม” ซึ่งความพิเศษของที่นี่ อยู่ที่เป็น งานลอยกระทงปลอดเหล้า – บุหรี่ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงโรคร้ายและส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่ผู้มาร่วมงาน นอกจากนี้เสน่ห์สำคัญที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพากันมาร่วมงานที่นี่มาจาก บรรยากาศของวัดเก่าริมน้ำ ที่มีความงดงาม ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนไปในอดีต , ภาพบรรยากาศพระปรางค์วัดอรุณยามค่ำคืนริมฝั่งเจ้าพระยาที่มีความงดงาม และสิ่งที่ขาดไมได้คือบรรดาร้านค้าต่างๆที่พากันมาออกร้านจำหน่ายสินค้า ทั้งอาหารคาว – หวาน , ของเล่น , เสื้อผ้า และอื่นๆ รับรองได้ว่า ไปงานนี้งานเดียว เที่ยว ชิม ช้อป แชะ ครบสูตรค่ะ

==================================

5. มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมากและบางนา)

รามคำแหง

มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งวิทยาเขตหัวหมากและบางนา เป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับชาวกรุงเทพฯ เดินทางไปลอยกระทงเป็นจำนวนมาก บริเวณสระน้ำภายในมหาวิทยาลัยฯ โดยภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น การประกวดกระทง, เวทีการแสดงวัฒนธรรมไทย อย่างการร้อง, รำ เป็นต้น นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ บึงจะมีร้านค้าขายของมากมาย ส่วนใหญ่จะขายกระทง และอาหารการกินเป็นหลัก ซึ่งเป็นกระทงที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ทั้งต้นกล้วยและใบตอง หรือไม่ก็ดอกบัว ขนมปัง เปลือกข้าวโพด อีกทั้งบริเวณใกล้ ๆ อย่างสนามกีฬา กกท. ยังมีบึงน้ำสำหรับลอยกระทง พร้อมด้วยการจำหน่ายอาหาร, สินค้า OTOP และอุปกรณ์การเล่นโบราณ เช่น ปาโป่ง ชิงช้าสวรรค์ ฯลฯ

==================================

6.อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย : “เผาเทียนเล่นไฟลอยกระทงสุโขทัย”

อลังการลอยกระทงสุโขทัย

ออกจากเมืองกรุง ไปเอาใจชาวต่างจังหวัดกันบ้าง และสถานที่จัดงานลอยกระทง ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ต้องยกให้ต้นตำรับแห่งงานลอยกระทง นั่นคือ “สุโขทัย” กับงานประเพณี “เผาเทียนเล่นไฟลอยกระทงสุโขทัย” ซึ่งปีนี้ ททท. ได้จัดงานในบรรยากาศย้อนยุค ย้อนกลับไปในราว 800 ปีก่อน ภายในงานจะมีการ โชว์นาฏยะศิลปะสุโขทัย พร้อมจับจ่ายซื้อของในตลาดแลกเบี้ย และหลากหลายกิจกรรมสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

==================================

ึ7. ถนนช้างคลาน ไนท์บาซาร์ จังหวัดเชียงใหม่ : “ประเพณียี่เป็ง เชียงใหม่ 2558”

เชียงใหม่

ที่อื่นๆ ในวันเพ็ญเดือนสิบสอง เราจะเห็นการลอยกระทงไปตามลำน้ำ เพื่อบูชาและขอขมาพระแม่คงคา แต่ลำหรับที่ “เชียงใหม่” จะมีประเพณีการลอยกระทงแบบล้านนาที่ไม่เหมือนใคร เพราะที่นี่จะ เป็นการลอยโคม หรือที่เรียกว่า “ประเพณียี่เป็ง”  ณ ถนนช้างคลาน ย่านไนท์บาซาร์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ภายในงานจะมีการแสดงแสง สี เสียง การปล่อยโคมลอย การแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา และขบวนแห่กระทงขบวนโคมยี่เป็ง ที่งดงาม หากใครรักในภาพบรรยากาศที่โคมนับร้อยๆดวง ลอยละลิ่วขึ้นสู่ท้องฟ้า ต้องห้ามพลาดงานนี้ค่ะ

==================================

8.วัดภุมรินทร์กุฎีทองและอุทยาน ร.2 อัมพวา สมุทรสงคราม : “ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง”

ร2

อีกหนึ่งสถานที่จัดงานลอยกระทงที่น่าสนใจ และอยากแนะนำคืองาน “ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง” ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวจังหวัดสมุทรสงคราม โดยในปีนี้ทางจังหวัดได้จัดงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ บริเวณวัดภุมรินทร์กุฎีทอง และบริเวณอุทยาน ร.2 อุทยาน อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยภายในงานจะประกอบด้วย กิจกรรม ตีฆ้องร้องป่าว,การละเล่นพื้นบ้าน,ดนตรีในสวน,สาธิตการทำอาหาร,การสาธิตการทำกระทงกาบกล้วย,นิทรรศการ,ประกวดกระทงชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,การแสดงดนตรีสุนทราภรณ์ วงใหญ่ , การแสดงดนตรีไทยของยุวศิลปิน,การรำวงย้อนยุค,ตลาดหิ่งห้อย,กิจกรรมในสวนสนุก สนใจสอบถามรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่ กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม หมายเลขโทรศัพท์ 0-3471-1893 ในวันและเวลาราชการ

==================================

9. เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี อำเภอเมือง จังหวัดตาก “งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง ประจำปี 2558”

ตาก 2

อีกหนึ่งงานลอยกระทงที่ไม่ควรพลาด คือ “งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง ประจำปี 2558” จัดขึ้น ณ บริเวณริมสายธารลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี อำเภอเมือง จังหวัดตาก  การลอยกระทงสายนี้ เป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาวจังหวัดตากที่ไม่เหมือนที่อื่นๆ เพราะที่นี่จะนำกระทงกะลามาขัดให้สะอาด ใช้เทียนไขที่เคี่ยวจนเหลว เทใส่ในกะลาที่มีด้ายฟั่นเป็นรูปตีนกา วางตรงกลาง เพื่อใช้จุดเป็นประทีป นำมาลอยที่ริมฝั่งแม่น้ำปิง เพื่อรำลึกจิตอธิษฐานบูชารอยพระพุทธบาท และบูชาพระแม่คงคา พร้อมอธิษฐาน เพื่อลอย ทุกข์ โศก ไปกับกระทง ยามค่ำคืนจะมีการประกวดกระทงสาย ชาวบ้านจะช่วยกันคนละไม้คนละมือปล่อยกระทงกะลาลงในแม่น้ำเป็นระยะๆ ห่างเท่าๆกัน กระทงกะลามะพร้าวจะลอยเป็นสายยาวล่องไปตามแม่น้ำปิง ส่องแสงระยิบระยับสวยงามไปทั่วทั้งผืนน้ำ และถ้าหากกระทงสายของหมู่บ้านใด ลอยได้ระยะสม่ำเสมอ แสงไฟไม่ดับตลอดสายจะถือเป็นผู้ชนะ ซึ่งภาพแสงไฟที่ลอยเป็นสายไปตามลำน้ำ ยาวสุดสายตา จะเป็นภาพประทับใจ ที่ อยากให้ทุกท่านได้ไปสัมผัส

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://travel.kapook.com/ , http://www.painaidii.com , travel.mthai.com