เคล็ดไม่ลับ!! การเลือกทุเรียน เพื่อเพิ่มความฟินให้มากยิ่งขึ้น!!

สำหรับในช่วงนี้ ไม่มีผลไม้อะไรจะฮอตฮิตไปยิ่งกว่าทุเรียนอีกแล้ว ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นในทุกปีและก็ยังมีคนที่จะยอมจ่ายเพื่อไขว่คว้ามาสนองความต้องการ แต่การที่จะเสียเงินไปจำนวนไม่น้อยนั้น เราต้องคุ้มค่าค่ะ ก่อนที่เราจะจัดทุเรียนมาสนองนี๊ดของเรานั้นควรจะรู้หลักการเลือกทุเรียนให้ถูกวิธี เพื่อให้ได้ทุเรียนดีๆ ไปครอบครอง ไม่ต้องถึงมือแม่ค้าหรือผู้เชียวชาญด้านทุเรียนเป็นคนเลือกให้ เราทุกคนก็สามารถเลือกทุ้รียนดีๆ เองได้ด้วยขั้นตอนดังนี้

การเลือกทุเรียน

รูปภาพจาก durianchumphon.wordpress.com

  1. ดูปากปลิง (ที่ก้านผล) ทุเรียนแก่จัดปากปลิงจะพองโตเห็นรอยชัดเจน
  2. ดูหนาม ผลทุเรียนแก่ปลายหนามจะออกสีน้ำตาลเข้ม
  3. บีบปลายหนาม 2 หนามเข้าหากัน ทุเรียนแก่เมื่อบีบปลายหนามเข้าหากัน จะมีลักษณะยืดหยุ่นเหมือนมีสปริง
  4. ดูขั้วผล ขั้วทุเรียนแก่จะเป็นสปริง ส่วนขั้วผลทุเรียนอ่อนจะไม่เป็นสปริง
  5. ดูสีผล ด้านบนทุเรียนแก่สีจะมันและแห้ง
  6. ดูร่องพู ทุเรียนแก่ร่องพูเป็นสีน้ำตาลปนเหลือง ไม่มีริ้วรอยจากแมลงและโรค
  7. ชิมปลิง โดยตัดขั้วผลหรือปลิง ทุเรียนแก่จะเห็นน้ำใสที่ขั้วผล ไม่ข้นเหนียวเหมือนทุเรียนอ่อน เมื่อชิมดูจะมีรสหวาน รอยตัดขั้วผลจะเป็นวงแหวนสีเหลืองระหว่างแกนกับเปลือก
  8. ดมกลิ่น ทุเรียนสุกจะมีกลิ่นหอม ส่วนทุเรียนแก่จะมีกลิ่นสาบของความหอม ไม่เหม็นเขียว
  9. เคาะที่โกรกหนาม ทุเรียนแก่มีเสียงโพรกดังหลวม ๆ ไม่ทึบ
  10. ควรซื้อทุเรียนที่ตัดมาจากสวนใหม่ ๆ หากเป็นไปได้ แวะไปที่สวนผลไม้ที่เปิดให้เข้าชม จะได้ทุเรียนที่ตัดมาสด ๆ นำไปเป่าพัดลมไล่น้ำ 3-5 ชั่วโมง เนื้อทุเรียนจะไม่อมน้ำ ทำให้ทานอร่อยยิ่งขึ้น
  11. ซื้อทุเรียนที่ตัดตอนแก่ พันธุ์ชะนีให้ทิ้งข้ามคืน 3 คืน ส่วนหมอนทองให้ทิ้งข้ามคืน 5 คืน จะได้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
  12. การใช้มีดผ่าทุเรียน ควรใช้มีดขนาดกระชับมือ มีความคมเป็นพิเศษผ่าตามร่องพู แล้วค่อย ๆ บิดเปลือกออกจะทำให้แกะงายขึ้น
  13. ทุเรียนที่สุกมาก ใช้มีดเจาะก้นผลแล้วบิดเปลือกออกจะทำให้แกะง่ายขึ้น
  14. ถ้าทานทุเรียนไม่หมดให้นำไปแช่ช่องฟรีซ จะได้ไอศครีมทุเรียนที่อร่อยไม่แพ้ทานทุเรียนสด

การเลือกทุเรียน

พันธ์ุส่งเสริมมีอยู่ 4 พันธุ์ อย่าง กระดุม หมอนทอง ก้านยาว และชะนี จะมีลักษณะแตกต่างกันไป มีจุดสังเกตุดังนี้

1. พันธุ์กระดุม ผลมีขนาดเล็ก ค่อนข้างกลม หัวและท้ายผลค่อนข้างป้าน ก้นผลบุ๋มเล็กน้อย น้ำหนักเฉลี่ย 1 กก. หนามเล็ก สั้นและถี่ ขั้วค่อนข้างเล็กและสั้น พูเต็มสมบูรณ์ ร่องพูค่อนข้างเล็ก เนื้อค่อนข้างบ่าง แต่ละเอียด นุ่ม สีเหลืองอ่อน เมล็ดมีขนาดใหญ่ รสชาติหวานไม่ค่อยมัน เละง่ายเมื่อสุกจัด
2. พันธุ์หมอนทอง ผลมีขนาดใหญ่ ค่อนข้างยาว มีบ่าผล ปลายผลแหลม น้ำหนักเฉลี่ย 3-4 กก. พูไม่ค่อยเต็มทุกพู หนามแหลมสูง ฐานหนามเป็นเหลี่ยม ระหว่างหนามใหญ่จะมีหนามเล็กแซมอยู่ทั่วไป เรียกว่า เขี้ยวงู ก้านใหญ่แข็งแรง ช่วงกลางก้านผลจนถึงปาปลิงจะอ้วนใหญ่เป็นทรงกระบอก เนื้อหนาสีเหลืองอ่อนละเอียด เนื้อแห้งไม่แฉะ รสชาติหวานมัน เมล็ดน้อยและลีบเป็นส่วนใหญ่
3. พันธุ์ก้านยาว ผลมีขนาดปานกลาง ทรงผลกลมเห็นพูไม่ชัดเจน พูเต็มทุกพู น้ำหนักเฉลี่ย 3 กก. หนามเล็กถี่สั้นสม่ำเสมอ ก้านใหญ่และยาว เนื้อละเอียดสีเหลืองหนาปานกลาง รสชาติหวานมัน เมล็ดมากค่อนข้างใหญ่
4. พันธุ์ชะนี ผลมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ รูปทรงหวด คือ กลางผลป่อง หัวเรียว ก้นตัด น้ำหนักเฉลี่ย 2.5-3 กก. ร่องพูลึก มองเห็นชัด ขั้วผลใหญ่และสั้น เนื้อละเอียดมีสีเหลืองจัด รสชาติหวานมัน เมล็ดค่อนข้างเล็กและมีจำนวนเมล็ดน้อย

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก chanforchan.com ,http://food.mthai.com/