ทุ่งโปรงทอง ฟิลกู๊ด 360 องศา ณ ระยอง บรรยากาศดีเว่อร์!!!

เคยตื่นมาแล้วรู้สึกเบื่อ อยากออกไปเที่ยวมั้ย แต่แบบ อยากไปเที่ยวง่ายๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนักพอดีไปชลบุรีบ่อย เบื่อละ เลยลองจังหวัดใกล้เคียงดูบ้าง ก็มาได้ที่ระยองนี่แหละว่าแล้วก็เปิด Google ดูซิ ระยองมีที่เที่ยวอะไรบ้างที่ไม่ใช่ทะเล ก็เจอ 1 ในสถานที่แนะนำ นั่นก็คือ ทุ่งโปรงทองเห็นในรูปสวยดี เลยต้องไปพิสูจน์ของจริงซักหน่อย ว่าแล้วก็คว้ากุญแจรถขับมาระยองเลยเราชอบใช้เส้นทาง Motorway เพราะทางมันดีแล้วก็ขับตรงๆๆ อย่างเดียว เกาะป้ายชลบุรี และระยองได้เลย

พอมาถึงตัวเมืองระยอง หิวข้าว…แต่เบื่ออาหารทะเล ขับไปขับมา เจอร้านส้มตำ ชื่อร้านตำฮิ ส้มตำถาดไฮโซ ชอบชื่อ มันคล้องกับจังหวัดระยองฮิดี

เลยแวะฝากท้องที่นี่ และเมนูแนะนำของที่นี่ก็คือ หมูทอดตำฮิ

ใครจะมาร้านนี้ใน google map มีนะคะ กด search ได้เลย

เค้าว่ากันว่า กินคาวเสร็จแล้วต้องกินหวานต่อ ฮ่าฮ่า มาหาของหวานล้างปากกันที่นี่เลย

ร้าน Park Brasserie จริงๆร้านนี้เค้ามีของคาวด้วยนะ พวกสปาเก็ตตี้

แต่เราชอบมาสั่งของหวานมากกว่า เพราะอร่อยทุกเมนูเลย

เมนูที่เราสั่งวันนี้คือ วาฟเฟิ้ลบานอฟฟี่ กับ ช็อคโกแลตลาวา ชาเขียว

แวะเติมพลังเรียบร้อยแล้ว ก็มาลุยต่อที่จุดหมายปลายทางของเรา นั่นก็คือทุ่งโปรงทอง!!

ทุ่งโปรงทองนี้ ตั้งอยู่ที่ ปากน้ำ  ประแสร์ ซึ่งขับจากตัวเมืองระยอง มาอ.แกลงอีกประมาณ60กิโลเมตร

เราก็ใช้บริการ Google Map เช่นเคย ปักหมุดไปที่ทุ่งโปรงทอง

ระหว่างขับรถก็คุยเพลินกับเพื่อน ทำให้เราขับเลยทางเลี้ยว เข้าสู่ทางไปทุ่งโปรงทอง เราจึงข้ามสะพานข้ามแม่น้ำประแสร์มาโผล่ หาดแหลมสนเฉ๊ยยย ฮ่าฮ่า

แต่ไหนๆก็มาละ ลงไปแชะภาพถ่ายรูปซักหน่อย ชายหาดที่นี่จะไม่ค่อยน่าเล่นน้ำเท่าไหร่

เพราะอยู่ใกล้กับปากน้ำประแสร์ หาดทรายเลยจะออกสีเข้มๆ ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวต้นสน

แต่บรรยากาศโดยรอบมันดูสงบดี อารมณ์แบบ เหงาๆ เศร้าๆ

มาเหม่อมองทะเล แล้วคุณจะได้วิวทะเลแบบไกลสุดลูกหูลูกตา ทำนองนั้น..

จริงๆ ทางที่มาหาดแหลมสน เราเห็นป้ายบอกทางไปชมอนุสรณ์เรือรบหลวงประแสร์ด้วย

แต่เราไม่ได้แวะไป เพราะใจไปอยู่ที่ทุ่งโปรงทองแล้ว ถ้าใครสนใจก็แวะเข้าชมได้ค่ะ

***

เมื่อถ่ายรูปเล่นและซึมซับบรรยากาศของหาดแหลมสนพอแล้ว

เราก็กลับรถ มุ่งหน้ามาทุ่งโปรงทอง โดยเปิด Google Map ตามเคย และเราก็เจอทางเลี้ยวที่เราขับเลยมา

พอเลี้ยวเข้าไปแล้ว จะเจอป้ายบอกทางไปทุ่งโปรงทอง จากนั้นจะเจอป้ายบอกรับฝากรถ 20 บาท

เราแนะนำให้จอดที่เค้ารับฝากรถเลยค่ะ เพราะถ้าขับเข้าไปมันจะเป็นทางเลนเดียว รถสวนกันไม่ได้เลย

และที่จอดตรงหน้าทางเข้าทุ่งโปรงทอง สามารถจอดรถได้ 3-4 คันเท่านั้น

แล้วก็แคบ คือ เรียกได้ว่า อย่าขับเข้ามาเลย จะกลับรถกลับราก็ลำบาก

จอดตรงที่ที่เค้าบอกให้จอดนั้นดีกว่า เสีย 20 บาทเอง เดินมาก็ไม่ไกลด้วยค่ะ

นี่เป็นวิวข้างทาง อารมณ์เป็นป่าชายเลน อะค่ะ

พอมาถึงทางเข้าจะเป็นสะพานไม้สูงๆ เชื่อมต่อกับทางเดินที่เป็นสะพานไม้

รอบๆข้างทาง จะมีต้นไม้ที่ขึ้นตามป่าชายเลน สำหรับผู้ที่ต้องการมาศึกษาหาความรู้ต่างๆเกี่ยวกับป่าชายเลนที่นี่

เค้าก็จะมีป้ายบอกชื่อต้นไม้ บอกข้อมูลเกี่ยวกับระบบนิเวศน์ป่าชายเลนตามทางเดินสะพานไม้ด้วยค่ะ

คือที่นี่ร่มรื่นมาก เพราะเต็มไปด้วยต้นไม้ บนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่

และที่นี่ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ

และระหว่างเดินสะพานไม้ ที่ตรงดิน ตรงรากไม้ จะมีปูอาศัยอยู่ด้วย ใครอยากเจอปู ก็หยุดส่องกันก่อนขึ้นไปชมวิว ยอดของใบต้นโปรงได้เลยค่ะ

และนี่คือภาพที่เราขึ้นไปถึงและมองไปรอบๆ โอ้โห คือมันสุดยอดมาก สวยมาก

เหมือนเราไปยืนท่ามกลางยอดไม้ แล้วแบบ รอบๆตัว รอบๆตัวจริงๆ นะ มันก็เต็มไปด้วย ยอดของใบต้นโปรงทอง คือเป็นทุ่งโปรงทองจริงๆ คือสวยมาก

เห็นแล้วกรี๊ด พูดเป็นสิบๆหนเลยว่า เห้ย สวยมาก เห้ย ชอบมาก อะไรทำนองนั้น

นี่บรรยายมาเว่อวังอลังการมากกก แต่ขอบอกว่าภาพที่เราถ่ายออกมามันไม่สวยเท่าที่ตาเห็นเลยนะ

น่าจะเป็นเพราะฝีมือการถ่ายภาพของเรา ฮ่าฮ่า เอาเป็นว่า อยากให้ทุกคนมาสัมผัสความรู้สึกนี้เอง มันเป็นฟีลลิ่งที่ อธิบายไม่ถูก

สำหรับเราแล้ว ความพิเศษของที่นี่อีกอย่าง ก็คือ สีของใบโปรงทอง

ที่เวลาเราไปถ่ายภาพ จะได้สีที่แตกต่างกันไปตามช่วงเวลา

เช่นแบบไปตอนเช้าๆ ถ่ายรูปออกมา จะได้วิวใบโปรงทองสีเขียวๆ

ถ้าไปตอนบ่ายสี่ จะได้เขียวอมเหลือง

ตอนก่อนพระอาทิตย์ตกจะได้สีเหลืองๆ

มันก็จะปรับไปตามแสงแดดที่ส่อง ซึ่งจะบอกว่า ของจริงมันสวยมากกกก มากๆ

ไม่ได้เว่อวังนะ คือ มันเหมาะสำหรับคนที่ชอบสีเขียวๆ เหลืองๆ ชอบธรรมชาติอะไรทำนองนั้น

ส่วนตัวเป็นคนชอบสะพานไม้อยู่แล้วด้วย และพอมันมาอยู่ท่ามกลางดงใบโปรงทอง

เราว่ามันเป็นอะไรที่เข้ากัน เห็นแล้วจะกรี๊ด 10 ตลบ อยากจะอยู่ตรงนี้นานๆ ฮ่าฮ่า

เราอยู่ที่ทุ่งโปรงทองนี้ ตั้งแต่บ่าย4โมงครึ่ง ยัน 6 โมงครึ่ง ฮ่าฮ่า ใช้เวลานานมาก

ทั้งๆที่ มันก็มีอยู่เท่านั้น แต่แบบ เราชอบมาก ยืนมอง ยืนเก็บบรรยากาศ ถ่ายรูปเล่นเพลินไปเลย ภาพที่เราถ่ายได้

ก็จะได้วิวสีของใบไม้แตกต่างกันด้วย ยังไงถ้าใครมาที่นี่ แล้วมีเวลา ก็อยากให้อยู่จนพระอาทิตย์ตกดินนะคะ

เพราะช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ ทุ่งโปรงทองจะเป็นสีเหลืองทองๆ สวยมากเลยค่ะ

และถ้าใครสนใจจะล่องเรือชมหิ่งห้อย ชาวบ้านที่นี่เค้าก็มีบริการพาชมนะ ติดต่อสอบถามตรงทางเข้าได้เลย ได้ยินมาว่า ประมาณ 400 บาทต่อเที่ยวนึง

สำหรับวันนี้ เรารู้สึกมีความสุขมาก มันเป็นความสุขเล็กๆ ที่ทำให้ยิ้มได้ตลอด 2 ชม.

แถมมาไม่ยาก ขับรถไม่ไกลเลยจากกรุงเทพฯ ยังไงก็ลองมาเที่ยวชมทุ่งโปรงทองกันนะคะ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://www.clubaroy.com/